Digital Marketing สำหรับธุรกิจท่องเที่ยว

DIGITAL MARKETING สำหรับธุรกิจท่องเที่ยว

การตลาดออนไลน์ สำหรับธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศไทยนั้นถือว่าเป็นงานยาก เพราะธุรกิจส่วนใหญ่ถูกขับเลื่อนด้วยบริษัททัวร์ และพวกเขาไม่ชอบการแข่งขันบนโลกออนไลน์นัก การทำการตลาดสำหรับธุรกิจท่องเที่ยวจึงต้องมีแผนงานที่ซับซ้อนมากขึ้น

ธุรกิจท่องเที่ยวหลายๆที่ในประเทศไทยมียอดนักท่องเที่ยวมากกว่า 70% มาจากบริษัททัวร์ และแน่นอนคุณไม่สามารถขายบัตรตัดราคาของบริษัททัวร์ได้ เพราะหากมีการตัดราคาเกิดขึ้น บริษัททัวร์มักจะหลีกเลี่ยงการขายบัตรของคุณ หรือไม่เอาสถานที่ของคุณเข้าไปอยู่ในแพคเกจทัวร์ 

ยกตัวอย่าง หากคุณขายบัตรผ่านเว็บไซต์ 1,000 บาท และขายให้บริษัททัวร์ 400 บาท บริษัททัวร์จะพยายามที่จะช่วยคุณขาย เนื่องจากมูลค่าบัตรของคุณคือ 1,000 เมื่อใส่เข้าไปในแพคเกจทัวร์ มูลค่าแพคกจนั้นก็จะสูงขึ้น โอกาสการขายแพคเกจก็จะมากขึ้น

แต่หากคุณขายบัตรหน้าเว็บไซต์ 1,000 บาท และขายบริษัททัวร์ 800 บาท บริษัททัวร์มักจะให้สถานที่ของคุณเป็นแค่ทางเลือก หรือใส่ในบางแพคเกจที่ไม่มีการทำการตลาดมากนัก

ดังนั้น คุณควรให้ความสำคัญกับแผนงานเรื่องราคาของคุณเป็นหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากธุรกิจของคุณได้ลูกค้าจากบริษัททัวร์มากกว่า 60% ขุ้นไป โดยราคาที่คุณต้องคำนึงถึงคือราคาที่อยู่บนหน้าเว็บไซต์ ที่นักท่องเที่ยวและบริษัททัวร์จะตรวจสอบดูเสมอ

เริ่มต้นทำการตลาดธุรกิจท่องเที่ยวอย่างไร

หากคุณได้อ่านบทความนี้ก่อนที่จะเริ่ม นั่นเป็นเรื่องที่ดี เพราะผมจะแนะนำสิ่งที่จำเป็นทั้งหมดที่คุณต้องรู้และเตรียมความพร้อม โดยส่วนมากมักจะเริ่มจากทำเพจ Facebook ทำเว็บไซต์ และทำโฆษณา แต่หลังจากนั้น 2-3 ปี มักจะมาเริ่มต้นใหม่กับการทำเว็บไซต์กันอีกรอบ ผมนะนำให้ตรวจสอบสิ่งต่อไปนี้

ต้องการอะไรจากการตลาดออนไลน์

หลายๆธุรกิจต้องการแค่ PR อัพเดทข่าวสาร ร้างภาพลักษณ์ บางธุรกิจต้องการขายบัตรบนช่องทางออนไลน์เป็นหลัก ซึ่ง 2 แบบนี้มีการลงทุนที่ต่างกันอย่างมากครับ 

ต้องการแค่ PR คุณต้องการเพียงเว็บไซต์ธรรมดา ที่สามารถอัพเดทเนื้อหาได้เองด้วยพนักงานที่ไม่มีความรู้ด้านการเขียนเว็บ เว็บไซต์มีการติดตั้งเครื่องมือพื้นฐาน เช่น Google Analytics Google Search Console  ส่วนที่เหลือเป็นบัญชี Social Media ตามแต่ฐานลูกค้าของคุณ และอาจจะทำโฆษณาสร้างแบรนด์ 1-5 หมื่นบาท/เดือน ไม่ควรเกินนี้

หากคุณมีการขายบัตรออนไลน์ เว็บไซต์จะต้องพัฒนายุ่งยากมากขึ้น เช่น มีระบบ eCommerce มีการติดตั้งเครื่องมือวัดผล Conversion และ CRM หากคุณไม่มีพนักงานดูแลเว็บไซต์ที่มีประสบการณ์ ควรหลีกเลี่ยงการใช้เว็บไซต์ PHP ที่เขียนเอง เพราะจะทำให้

ทำไมต้องจ้าง Digital Marketing Agency

ทำไมต้องจ้าง DIGITAL MARKETING AGENCY

คำถามที่หลายๆท่านสงสัยเมื่อเริ่มทำการตลาดออนไลน์อย่างจริงจัง ทำไมต้องจ้าง Digital Marketing Agency? ข้อดี ข้อเสียอย่างไร ลองมาดูแนวทางกันก่อนตัดสินใจได้จากบทความนี้ครับ

Agency ทำงานอย่างไร

โดยทั่วไปบริษัทเอเจนซี่จะมีพนักงานที่มีความรู้เฉพาะทางในด้านใดด้านหนึ่งอยู่ตามจำนวนบองบริการที่เขาเสนอขาย เช่น SEO, Facebook Ads, Google Ads และให้พนักงานเหล่านั้นดูแลบัญชีของลูกค้าหลายๆบริษัท ซึ่งทำให้การลงทุนจ้างพนักงาน 1 คน สามารถใช้เวลาทั้งหมด 8 ช.ม. ของเขาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและที่สำคัญที่สุดคือคุ้มค่ากับเงินเดือนที่ต้องจ่ายไป ส่วนนี้สำคัญมาก เพราะบางตำแหน่งอาจจะต้องจ่ายเงินเดือนที่สูงมาก การทำงานให้บริษัทเดียวอาจไม่มีงานที่มากพอและไม่คุ้มค่านั่นเอง

ข้อดีของ Agency

เมื่อคุณมีงานไม่มาก แต่ต้องการคนมีประสบการณ์ด้านนั้นๆมาดูแล การจ้าง Agency ก็จะช่วยลดต้นทุนได้อย่างมาก ยกตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการคนทำโฆษณา Google AdWords ทีมีประสบการณ์ 3-5 ปี เพื่อดูแลการใช้จ่ายท่าโฆษณา 40,000 บาทต่อเดือน

หากคุณเลือกที่จะจ้างพนักงานประจำ จะต้องจ่าย 18,000-22,000 บาทต่อเดือนสำหรับจ้างพนักงานประจำ ซึ่งในความเป็นจริง สำหรับการดูแลโฆษณา 4 หมื่นบาท ใช้เวลาเพียง 1-2 ช.ม./วันเท่านั้น คุณจะต้องให้พนักงานคนนี้รับผิดชอบเรื่องอื่นเพิ่มด้วย แต่หากคุณเลือกที่จะจ้าง Agency คุณจะได้ผู้มีประสบการณ์ทำงานให้คุณในราคา 5,000-15,000 บาท ตามความยากง่ายของบัญชีคุณ

ข้อเสียของ Agency

ไม่ใช่ว่าจะมีแต่ข้อดี เมื่อคุณทำงานกับ Agency ก็อาจมีปัญหาหลายๆอย่างตามมาจากหลายๆปัจใจ เช่น เอเจนซี่ ไม่เข้าใจตลาด เอเจนซี่ เปลี่ยนพนักงาน การสื่อสารที่ไม่เพียงพอ หรือความยากง่ายจากการพัฒนาระบบ การจัดการภายในของบริษัท 

โดยส่วนมากแล้ว มักจะพบปัญหาเรื่องความเข้าใจตลาด และ Journeys ของลูกค้า เพราะเป็นไปได้อย่างมากว่าคนที่ตั้งค่าโฆษณาให้กับคุณ อาจไม่เคยทำงานให้ธุรกิจแบบเดียวกันนี้มาก่อน ปัญหารองลงมาคือการเปลี่ยนพนักงานที่ดูแลบัญชีของคุณ เพราะบางครั้งคุณอาจไม่รู้เลยว่ามีพนักงานใหม่มาดูแลบัญชีโฆษณานี้ หากทาง Agency ไม่ได้แจ้งให้ทราบ 

ร่วมงานกับ Agency อย่างไร ให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด

มีผู้คนส่วนมากยังเข้าใจผิดๆว่า การจ้าง Agency จะสามารถโยนงานเหล่านั้นออกไปให้ Agency ได้เลย หากคุณต้องการให้ Agency ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ สิ่งที่คุณต้องทำคือคอยประสานงาน และอัพเดทความคืบหน้า รวมถึงแผนงานต่างๆให้กับ Agency แปลว่า อย่างน้อยคุณควรมีพนักงาน 1 คน ที่คอยดูแลงาน Digital Marketing ในภาพรวม และประสานงานร่วมกับ Agency วิธีนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพอย่างมาก

Are you ready

for new opportunities?